โรคหลอดเลือดสมอง สัญญาณเริ่มต้นของโรคหลอดเลือดสมอง เกิดจากอาการปวดหัว ไม่ว่าจะเป็นภาวะเลือดออกในสมอง หรือกล้ามเนื้อสมองขาดเลือด อาการปวดหัวเป็นเรื่องปกติมาก ซึ่งเป็นอาการและสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองที่สำคัญด้วย การอาเจียน มักมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย และพบบ่อยมาก โดยมีอาการอาเจียนคล้ายไอพ่น กรณีอาเจียนเป็นของเหลวโดยแสดงว่ามีอาการรุนแรงมาก
อาการวิงเวียนศีรษะ มักมาพร้อมกับการอาเจียนหรือหูอื้อ ซึ่งเป็นอาการทั่วไปของโรคหลอดเลือดสมอง อาการผิดปกติที่แขนขา และใบหน้าข้างเดียว รวมถึงน้ำลายไหลที่มุมปาก ควรให้ความสนใจกับปรากฏการณ์มุมปากเฉียง อาการน้ำลายไหล หรืออาหารที่ไหลออกจากมุมปาก
เกิดการรบกวนทางสายตาอย่างกะทันหัน ซึ่งไม่สามารถมองเห็นวัตถุด้านซ้ายหรือด้านขวา หรือความบกพร่องทางสายตาได้ เพราะยังสามารถปรากฏต่อหน้าต่อตา พูดไม่ชัดอย่างกะทันหัน และมีอาการไอเมื่อกลืน โดยแสดงออกเป็นคำพูดที่ไม่ชัดเจนของผู้ป่วย อาการอาเจียนลำบาก และไอ เมื่อดื่มน้ำหรือกลืนกิน
ความผิดปกติของสติ เกิดอาการสับสน หายใจไม่ดี กรน เกิดาอาการโคม่ารุนแรงเกิดขึ้นได้ ภาวะซึมเศร้าทางอารมณ์ และปัจจัยของโรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงอาการหัวใจที่รุนแรงมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดลมภายใน และโรคหลอดเลือดสมองได้ ในทางคลินิก อาการมักทำให้เกิดความเสียหายต่อตับบ่อยขึ้น ทำให้กลายเป็นสมาธิสั้นอย่างรุนแรง ในส่วนความกังวล ความเศร้า ความกลัว ความตึงเครียดทางอารมณ์เป็นต้นเหตุของโรคนี้
ปัจจัยเลือดชะงักงันใน โรคหลอดเลือดสมอง การก่อตัวของภาวะชะงักงันของเลือด ส่วนใหญ่เกิดจากเลือดหรือความอ่อนแอของการไหลเวียนของเลือด หรือการสะสมของเลือด เนื่องจากความเย็นของเหลวบาดแผล การเกิดโรคของโรคนี้ รวมถึงการสะสมของเลือด หรือความชะงักงันของเลือด
วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง การป้องกันเบื้องต้น หากร่างกายมีปัจจัยเสี่ยงข้างต้นเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือสองสามอย่าง เพราะไม่มีสัญญาณ หรืออาการแสดงของหลอดเลือดสมอง ซึ่งจะจัดว่า เป็นวัตถุป้องกันเบื้องต้น กล่าวคือ ควรปฏิบัติต่อปัจจัยเสี่ยงที่มีอยู่อย่างจริงจัง และติดตามการเกิดขึ้นของความเสี่ยงอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอ ปัจจัยและใช้มาตรการของเป้าหมาย
บุคคลที่มีปัจจัยเสี่ยงอยู่แล้ว หรือเคยมีอาการของโรคหลอดเลือดสมองเช่น ภาวะขาดเลือดขาดเลือดชั่วคราว ควรได้รับการวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ รวมถึงการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองขั้นรุนแรง ซึ่งเป็นการป้องกันขั้นทุติยภูมิ การป้องกัน 3 ระดับได้แก่ สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง การรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ หรือระยะแรกสุด เพื่อลดระดับความทุพพลภาพ
การกำจัดหรือรักษาปัจจัยเสี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดบ่อยคือ การป้องกันระดับตติยภูมิ การรักษาในระยะแรกที่เรียกว่า การรักษาในระยะเฉียบพลัน หลังจากเริ่มมีอาการของผู้ป่วยไม่กี่ชั่วโมง การรักษาที่ดำเนินการภายในไม่กี่ชั่วโมง หลังจากเริ่มมีอาการ สำหรับโรคหลอดเลือดสมองตีบ การเกิดลิ่มเลือดอุดตันจะเริ่มขึ้นภายใน 6 ชั่วโมง หลังจากเริ่มมีอาการ การรักษาการแทรกแซงของมาตรการการรักษาที่ตรงเป้าหมายเร็วขึ้นเท่าใด ผลการรักษาก็จะยิ่งดีขึ้น
ในระดับความทุพพลภาพก็จะยิ่งต่ำลง กินอาหารอะไรป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง สามารถทานกล้วย การวิจัยทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่า หากกินกล้วยประมาณ 100 กรัมทุกวัน จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองได้อย่างมาก เนื่องจากกล้วยอุดมไปด้วยโพแทสเซียม โพแทสเซียม มีบทบาทสำคัญในการส่งกระแสประสาท การดูดซึมสารอาหารในเซลล์
ส้ม นักวิจัยพบว่า การบริโภคฟลาโวนอยด์ทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ที่บริโภคฟลาโวนอยด์ในปริมาณมาก จะมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองต่ำกว่ากลุ่มที่บริโภคน้อยที่สุดถึง 19 เปอร์เซ็นต์ และ 95 เปอร์เซ็นต์ของฟลาโวนอล มาจากผลไม้รสเปรี้ยว จากการศึกษาพบว่ าผู้หญิงมักกินส้ม ส้มโอ และผลไม้รสเปรี้ยวอื่นๆ เสมอ เมื่อเทียบกับการรับประทานผลไม้เหล่านี้
กาแฟ การศึกษาใหม่แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมที่ดื่มกาแฟ 2 ถ้วยต่อวัน มีความเสี่ยงลดลง 14 เปอร์เซ็นต์ในสมอง ผู้เข้าร่วมที่ดื่มกาแฟ 3 ถึง 4 ถ้วยต่อวัน มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองลดลง 17 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม หากการดื่มกา แฟในแต่ละวันมากขึ้น กาแฟจะไม่ออกฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง ในการป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดสมอง สำหรับผู้ติดคาเฟอีนที่ดื่มกาแฟมากกว่า 6 แก้วต่อวัน ความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองจะลดลงเพียง 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
คื่นฉ่าย เป็นอาหารเสริมในยุโรปและสหรัฐอเมริกา สามารถใช้เป็นของตกแต่งโต๊ะอาหาร แต่ในความเป็นจริง คุณค่าทางโภชนาการของคื่นฉ่ายนั้น ไม่อาจประเมินค่าต่ำไป เมื่อร่างกายมนุษย์มีโฮโมซิสเทอีนมากเกินไป มันจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของหลอดเลือด กรดโฟลิกที่มีอยู่ในคื่นฉ่าย สามารถเปลี่ยนเป็นโมเลกุลที่ไม่เป็นอันตราย ดังนั้นการรับประทานมากขึ้น สามารถป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดเช่น โรคหลอดเลือดสมองได้
เรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจ คลิ๊ก !!! สุขภาพ ระบบการปกครองสุขภาพทักษะสำหรับการปรับความสมดุลสุขภาพ